วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555


เทคนิคการปรุงอาหาร 

    การปรุงอาหารด้วยวิธีการผัด ( STIR-FRYING ) : วิธีนี้เป็นวิธีปรุงอาหารที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ถ้าคุณไม่มีกระทะหลุมแบบที่ใช้กันโดยทั่วไป กระทะแบนสำหรับทอดก็สามารถใช้แทนกันได้ ก่อนการผัดทุกครั้งจะต้องตั้งไฟจนกระทะร้อนได้ที่ก่อนจะใส่วัตถุดิบ (เนื้อสัตว์ หรือ ผัก) ลงไปในกระทะ ในการผัดนั้น นิยมใช้ตะหลิว (ทั้งที่ทำจากโลหะ หรือไม้) เพื่อกลับอาหารในกระทะอย่างรวดเร็ว เมื่ออาหารสุก รีบปรุงรสและนำออกจากกระทะและเสิรฟขณะที่อาหารยังร้อนๆ เนื่องจากขั้นตอนการผัดนั้นมักจะใช้เวลาสั้น วัตถุดิบต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการประกอบอาหารประเภทนั้นจะต้องถูกเตรียมให้พร้อมก่อนเริ่มการผัด ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อทำการผัดอาหารแล้วจะได้อาหารที่สุกพอดี ไม่ไหม้จากการที่ต้องเสียเวลาเตรียมวัตถุดิบอื่นๆขณะที่ผัดอาหาร เคล็ดลับที่สำคัญในการผัดอาหารทะเลนั้น เวลาผัดจะต้องใช้ไฟสูง และผัดอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผิวด้านนอกของอาหารทะเลสุก ขณะที่ภายในยังนุ่ม (ปรุงงเกือบสุก - จะได้รสชาติดีที่สุด) อาหารทะเลที่ปรุงสุกเกินไปจะรสชาติไม่อร่อย ผิวแข็ง และกระด้าง
เทคนิคการปรุงอาหารด้วยวิธีผัด
อาหารไทย : ผัดผักรวมมิตร
 
     การปรุงอาหารด้วยวิธีการตุ๋น ( STEWING ) : การตุ๋นจะช่วยรักษาคุณประโยชน์ของสารอาหารไว้ได้เกือบครบถ้วน โดยสารอาหารที่สำคัญจากเนื้อสัตว์ ผักและสมุนไพรต่างๆ จะยังคงอยู่ในน้ำที่ตุ๋นอาหาร เนื้อสัตว์ที่หยาบกระด้างเมื่อผ่านการตุ๋นแล้วจะทำให้เนื้อนุ่มน่ารับประทาน ในการตุ๋นอาหารโดยทั่วไป เนื้อสัตว์มักจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดใกล้เคียงกัน และเติมน้ำลงไปพอท่วมเนื้อ และใส่ในหม้อต้มปิดด้วยฝาที่สนิท ตั้งไฟอ่อนๆ เพื่อค่อยๆตุ๋นให้วัตถุดิบภายในสุกอย่างช้าๆ น้ำที่ได้จากการตุ๋นสามารถใช้เสิรฟกับอาหารในลักษณะน้ำราดได้อีกด้วย
เทคนิคการปรุงอาหารด้วยวิธีตุ๋น
ออาหารไทย : เนื้อตุ๋น
 
     การปรุงอาหารด้วยวิธีการนึ่ง ( STEAMING ) : ในการปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่งนั้น อาหารจะถูกปรุงให้สุกโดยใช้ไอน้ำที่เกิดจากการต้มน้ำภายใต้อาหารนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นอาหารจะไม่มีการสัมผัสโดยตรงกับน้ำที่ต้ม ซึ่งจะส่งผลให้คุณค่าของสารอาหารยังคงอยู่กับอาหารอย่างครบถ้วน และที่สำคัญในการนึ่งนั้นแทบจะไม่ต้องเติมน้ำมันลงไปในการนึ่งเลย ทำให้การนึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เคล็ดลับที่สำคัญสำหรับการนึ่งอาหารให้รสชาติดีนั้น วัตถุดิบที่ใช้จะต้องสดมากๆ การนึ่งอาหารโดยทั่วไปจะต้องมีจานที่สามารถทนความร้อน (ทำจากเซรามิก, แก้ว, กระเบื้องก็ได้ ไม่แนะนำให้ใช้จานที่ทำจากพลาสติกหรือเมลามีน) และต้องมีซึ้ง (Steamer) โดยใส่น้ำต้มให้เดือดและนำอาหารที่ต้องการนึ่งวางบนจานทนความร้อนและใส่เข้าไปในซึ้ง และปิดฝาให้สนิท
เทคนิคการปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่ง
อาหารไทย : ปลานิ่ง
 
     การปรุงอาหารด้วยวิธีการทอด ( DEEP FRYING ) : วิธีการทอดนั้นจะทำให้อาหารสุกโดยการใส่เนื้อสัตว์หรือผักลงไปในน้ำมันที่ตั้งจนร้อน ปริมาณน้ำมันที่ใส่จะต้องมากพอที่จะท่วมอาหารที่จะนำไปทอด การทอดนั้นนิยมทอดในกระทะแบบหลุมหรือกระทะชนิดแบนก็ได้ อุณหภูมิของน้ำมันที่ใช้ในการทอดเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการปรุงอาหาร ถ้าน้ำมันไม่ร้อน เมื่อใส่อาหารลงไปทอด จะส่งผลให้อาหารอมน้ำมันและไม่น่ารับประทาน ขณะเดียวกันถ้าอุณหภูมิน้ำมันสูงเกินไป อาหารที่นำไปทอดก็จะไหม้ อุณหภูมิน้ำมันที่เหมาะสำหรับการทอดอยู่ที่ 180 องศาเซลเซียส (หรือประมาณ 350 องศาฟาเรนไฮต์) เมื่อทอดเสร็จแล้วควรสะเด็ดน้ำมันออกจากอาหารที่ทอด ตะแกรงลวดโลหะเป็นที่นิยมใช้ในการสะเด็ดน้ำมัน นอกจากนั้นกระดาษซับน้ำมันก็สามารถใช้ดูดซับน้ำมันออกจากอาหารที่ทอดได้ อาหารที่ผ่านการสะเด็ดน้ำมันเป็นอย่างดีจะช่วยคงความกรอบให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย
เทคนิคการปรุงอาหารด้วยวิธีทอด
อาหารไทย : ทอดมันกุ้ง
 
     การปรุงอาหารด้วยวิธีการย่าง ( GRILLING ) : การปรุงอาหารด้วยวิธีการย่างนั้น จะนำอาหารที่ต้องการปรุงให้สุก วางไว้บนไฟหรือความร้อน ซึ่งอาจเป็นเตาถ่าน, เตาไฟฟ้า บางครั้งอาจใช้เตาอบ หรือตั้งกระทะไว้บนไฟในการย่างอาหารก็ได้ ในการย่างอาหารไทยนั้น อาหารอาจถูกย่างโดยตรงกับไฟ หรืออาจห่อด้วย ใบไม้หรือฟลอยส์อลูมิเนียม สำหรับใบไม้ที่นิยมใช้นั้นก็มีใบตอง และใบเตย ซึ่งอาหารที่ห่อและนำไปย่างจะมีกลิ่นหอม ชวนน่ารับประทาน การย่างที่ถูกต้องนั้น จะต้องมีการกระจายความร้อนให้ทั่วอาหารเพื่อไม่ให้อาหารไหม้ ดังนั้นการกลับหน้าอาหารจึงมีความจำเป็น เคล็ดลับการย่างเนื้อสัตว์ให้อร่อยต้องย่างให้ผิวภายนอกให้สุก และพยายามให้เนื้อภายในเกือบสุก ด้วยวิธีนี้จะได้เนื้อที่นุ่ม ไม่หยาบกระด้าง และน่าทานเป็นอย่างมาก
เทคนิคการปรุงอาหารด้วยวิธีย่าง
อาหารไทย : หมูย่าง
 
     การปรุงอาหารด้วยวิธีการยำ ( SALADS ) : อาหารที่ปรุงด้วยวิธีการยำนั้น จำเป็นต้องเน้นรสชาติที่จัด และ เน้นเครื่องปรุง วัตถุดิบที่สดมากๆ รสชาติอาหารยำจะเป็นการผสมผสานกันของรสเปรี้ยว, รสเค็ม และรสเผ็ดร้อนของพริก ขณะที่การเพิ่มรสหวานนิดหน่อยจะช่วยทำให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น สำหรับรสชาติของอาหารยำนั้นสามารถปรับได้ตามประเภทของอาหาร ในขั้นตอนการยำ วัตถุดิบต่างๆจะถูกหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ และนำไปลวกน้ำร้อนอย่างรวดเร็ว ในการคลุกวัตถุดิบและเครื่องปรุงเข้าด้วยกัน ต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นอาหารจะเละ ไม่น่ารับประทาน เมื่อยำอาหารเสร็จแล้ว ต้องรีบเสิรฟทันที อาหารที่ยำเสร็จแล้วปล่อยทิ้งๆไว้นานๆรสชาติของอาหารจะไม่อร่อย เนื่องจากวัตถุดิบที่อยู่ในอาหารจะดูดน้ำยำไปจนหมด ทำให้เสียรสชาติเดิมที่ยำเสร็จใหม่ๆ
เทคนิคการปรุงอาหารด้วยวิธียำ
อาหารไทย : ยำรวมมิตรทะเล
 
หมูมะนาว

 หมูมะนาว

   

  เครื่องปรุง + ส่วนผสม


* เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
* กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกขี้หนูซอย 5 - 10 เม็ด (ปรับได้ตามความชอบ)

* ผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 3-5 ช้อนโต๊ะ
* คะน้า 1 ต้น (ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
* ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร)

 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. เตรียมทำน้ำราด โดยผสมกระเทียม, พริก, ซิอิ๊วขาว, น้ำปลา, น้ำตาล และน้ำมะนาว คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ปรับรสชาติได้ตามที่ต้องการ
2. นำผักคะน้าไปลวกในน้ำเดือด จนสุกแล้วจึงสะเด็ดน้ำและจัดใส่จานเสริฟไว้
3. หลังจากลวกคะน้าแล้ว ก็นำหมูไปลวกต่อจนสุกทั่ว เสร็จแล้วนำออกมาสะเด็ดน้ำ
4. จัดหมูที่ลวกแล้วใส่จานเสริฟที่จัดผักคะน้าไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นเทน้ำราดลงบนหมู แต่งหน้าด้วยผักชี จากนั้นจึงเสริฟเป็นของทานเล่นหรือกับแกล้มก็ดี


หอยแมลงภู่โป๊ะแตกทะเล

 โป๊ะแตกทะเล

   
  เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* หอยแมลงภู่ 100 กรัม (ล้างทำความสะอาด)
* ปู 100 กรัม (ทำความสะอาดและหั่นเป็นชิ้น)
* เนื้อปลาหั่นเป็นชิ้น 80 กรัม
* ปลาหมึก 80 กรัม (หั่นเป็นชิ้น)
* กุ้ง 80 กรัม (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)
* เห็ดหั่นเป็นชิ้น 1/4 ถ้วยตวง
* ข่าหั่นเป็นชิ้น 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
* พริกทุบพอแหลก 5-10 เม็ด (แล้วแต่ความเผ็ดที่ต้องการ)
* ตะไคร้ 2 ต้น (หั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 2 นิ้วและทุบ)
* ใบมะกรูด 3 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นๆ)
* ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง (หรือน้ำซุปผัก)
* ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร)
 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ตั้งน้ำ (หรือน้ำซุปผัก) ในหม้อ รอจนเดือดจึงใส่ ตะไคร้, ข่า และใบมะกรูด ต้มต่อไปประมาณ 5 นาที
2. ใส่หอยแมลงภู่, เนื้อปู, ปลา, ปลาหมึก, กุ้งและเห็ดลงไปในหม้อ ต้มต่อไปอีกประมาณ 4 นาทีหรือจนกระทั่งเนื้อสัตว์ที่ใส่ลงไปสุก
3. ใส่ใบโหระพา และปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะนาวและ พริก เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้วจึงตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีและเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ผัดเปรี้ยวหวานหมู

 

 ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง

  

                    เครื่องปรุง + ส่วนผสม

มะเขือเทศ 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
* หอมใหญ่ 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* แตงกวา 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* พริกหยวก 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
* กระเทียมสับ 4 กลีบ
* น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
* แป้งข้าวโพด 1.5 ช้อนโต๊ะ
   (นำไปผสมกับน้ำ คนให้ละลาย)

 เครื่องปรุง+ส่วนผสม กุ้งทอด (หรือหมูทอด) 
     * กุ้งขนาดกลาง 10 ตัว (ล้างและปอกเปลือก)
        (หรือ หมู 350 กรัม หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
     * แป้งอนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
     * น้ำเย็น 1 ถ้วยตวง
     * ไข่ไก่ 1 ฟอง
     * เกลือ 1/2 ช้อนชา
     * พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
     * น้ำมันสำหรับทอด


 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ในชามขนาดใหญ่, ผสมเกลือ, กระเทียมและพริกไทยกับแป้งอเนกประสงค์ เทน้ำและไข่ไก่ลงไป ผสมจนเข้ากัน
2. นำุ้กุ้ง (หรือหมู) ลงไปชุบแป้งที่เตรียมไว้ และนำไปทอดจนเหลืองกรอบ นำไปวางบนกระดาษซับมันและเตรีึยมไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป
3. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟ ใส่กระเทียมลงไปผัดจนเหลือง จากนั้นใส่แตงกวา, หอมใหญ่ และผัดจนเกือบสุกจึงใส่มะเขือเทศลงไปผัด
4. ใส่กุ้งทอด (หรือหมูทอด), น้ำส้มสายชู, น้ำปลา และน้ำตาล รสชาติดั้งเดิมจะีมีรสหวาน, รสเปรี้ยวและรสเค็มพอๆกัน
5. เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเริ่มเดือด ใส่น้ำแป้งที่เตรียมไว้ คนเรื่อยๆเพื่อไม่ให้แป้งที่ใส่เกาะตัวเป็นก้อน เสร็จแล้วปิดไฟ และตักใส่จาน เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ



สูตรอาหารไทย
ปลากะพงนึ่งบ๊วย



เครื่องปรุงและส่วนผสม

ปลากะพงขาว1ตัว
บ๊วยดอง2เม็ด
น้ำบ๊วย2ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปไก่1/2ถ้วยตวง
ขิงหั่นฝอย1/2ถ้วยตวง
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน1/4ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอยตามยาว2เม็ด
น้ำมันหอย1ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา2ช้อนชา
ซอสถั่วเหลือง1ช้อนโต๊ะ
ซิอิ๊วขาว2ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย1ช้อนชา
ต้นหอม หั่นเป็นท่อน1/4ถ้วยตวง

วิธีการทำ ปลากะพงนึ่งบ๊วย
1. ขอดเกล็ดปลาให้หมด ควักไส้ออก บั้งที่ตัวปลาข้างละ 2-3 บั้ง ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
2. นำปลาใส่จานที่จะนึ่ง ใส่น้ำซุปบ๊วยดองบี้ให้แตก น้ำมันงา น้ำมันหอย ซอสถั่วเหลือง ซิอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำบ๊วย ให้ทั่วปลา คลุมตัวปลาด้วยต้นหอม ขึ้นฉ่าย ขิง พริกชี้ฟ้าแดง นึ่งในลังถึงนึ่งพอสุก เสิร์ฟร้อน ๆ 


สูตรอาหารไทย

ยำไข่ดาวเบคอน
ยำไข่ดาวเบคอน เป็นการดัดแปลงนำเอาอาหารฝรั่งมาปรุงรสแบบไทยๆ เพื่อความอร่อย









เครื่องปรุงและส่วนผสม

ไข่ไก่3ฟอง
เบคอน5ชิ้น
ผักกาดหอม3ใบ
พริกขี้หนู1ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่ซอย1/4ถ้วย
น้ำตาลทราย1ช้อนชา
น้ำปลา2ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว2ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช2ถ้วย

วิธีการทำ ยำไข่ดาวเบคอน

1. ต่อยไข่ไก่ 3 ใบลงในชาม ตั้งกะทะน้ำมันปานกลาง รอให้น้ำมันร้อนแล้วเทไข่ลงทอด
2. หลังจากนำไข่ดาวขึ้น ให้นำเบคอนลงทอดต่อให้กรอบ
3. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล คนให้ละลาย ใส่พริกขี้หนู ตามใจชอบ
4. หั่นไข่ดาวที่ทอดกรอบเป็นชิ้นพอคำ วางหอมใหญ่ วางเบคอนที่เตรียมไว้ ราดหน้าด้วยน้ำยำแต่งด้วยผักกาดหอมอีกนิดก็พร้อมเสิร์ฟได้

สูตรอาหารไทย
ผัดเนื้อโอชารส
ผัดเนื้อกับเต้าหู้ยี้หมักด้วยเหล้าใส่พริกขี้หนูนิดหน่อย






 

เครื่องปรุงและส่วนผสม
เนื้อสันใน400กรัม
เหล้า2ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว1/2ช้อนโต๊ะ
เต้าหู้ยี้ ขนาด 1 นิ้ว บี้ละเอียด1ชิ้น
เตี้าเจี้ยวโขลกละเอียด1ช้อนชา
พริกขี้หนูบุบพอแตก7เม็ด
น้ำมัน3ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ ผัดเนื้อโอชารส
1. ล้างเนื้อให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นใหญ่ ขนาด 1 1/2 นิ้ว หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ
2. หมักเนื้อกับเหล้าและซีอิ๊วขาว ประมาณ 20 นาที
3. ใส่น้ำมันในกระทะ ใช้ไฟแรง พอน้ำมันร้อนจัด ใส่เนื้อ ผัดจนเกือบสุก ใส่เต้าหู้ยี้ พริกขี้หนู คนพอเข้ากัน ตักขึ้น